โอวาทธรรม หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม
ท่านทั้งหลาย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ผมได้ไปรับพระมอสเพื่อเดินทางกลับวัดโคกปราสาท หลังจากที่ท่านได้เดินธุดงค์ไปกราบพระอุปัฏฌาจารย์เจ้า หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม ณ วัดกระดึงทอง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ จึงมีโอกาสได้กราบและฟังธรรมหลวงปู่อย่างใกล้ชิด หลวงปู่มีเมตตาแสดงธรรมพอสรุปได้ว่า
คนเราเกิดมาเพื่ออะไร? คนเราเกิดมามีหน้าที่อยู่สองอย่างคือ 1) เกิดมาทำหน้าที่เพื่อตัวเอง 2) เกิดมาทำหน้าที่เพื่อผู้อื่น จะทำงานการอาชีพอะไร ก็ขอให้ทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต หากเป็นองค์กรหรือหน่วยงาน ต่างคนก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เมื่อคนในองค์กรต่างช่วยกันขับเคลื่อนไปพร้อมๆกัน ไม่ขัดขวางหรือถ่วงกัน องค์กรนั้นก็จะมีความเจริญ คนเราทำหน้าที่สองอย่างมิใช่จะสำเร็จได้ดีทั้งร้อยเปอร์เซ็น แต่ขอให้ได้อย่างละ 70-80 เปอร์เซ็นก็ดีแล้ว คนเราก็เหมือนกับเครื่องยนต์นั้นแหละ ทำงานก็เหมือนกลไก หากชิ้นส่วนชำรุดเสียหายไป เครื่องยนต์นั้นก็ทำงานไม่ได้ ทั้งระบบมันต้องไปด้วยกัน เกื้อกูลกัน
อนึ่ง... หากพิจารณาโอวาทธรรมของหลวงปู่ มีใจความดุจดังปัจฉิมโอวาทของพระบรมศาสดา ที่แสดงไว้ในวันปรินิพพาน ซึ่งมีใจความว่า....
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอบอกเธอทั้งหลาย สังขารทั้งปวงมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา
พวกเธอจึงทำประโยชน์ตนเอง และประโยชน์ของผู้อื่นให้สมบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" (อปปมาเทน สมปาเทต)
หลวงปู่เมตตาแสดงธรรมต่อไปว่า ทุกวันนี้คนคอรัปชั่นมีมาก ระบบราชการและการเมืองก็วุ่นวาย ใครได้อำนาจก็แก้ไขกฎระเบียบใหม่ให้พอใจแก่ตัวเอง ยุคใครยุคมัน มันเปลี่ยนแปลงไปตามสมัย หากว่าของเก่าไม่ดีก็แก้ไขให้มันดี หากผู้มีอำนาจรู้จักนำเอาหลักการ "อนุโลม และปฏิโลม" มาใช้ คงลดความวุ่นวายไปได้มาก ข้าราชการหรือนักการเมือง หากใครรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด ก็ยอมรับแล้วแก้ไขตัวเองใหม่ให้ถูกต้องเสีย ก็สามารถแต่งตั้งให้มาทำงานใหม่ ก็คงยอมรับกันได้ ผิดก็แก้ให้ถูก ถูกแล้วก็รักษาให้ดีต่อไป "บางครั้งถูกแบบทางโลก แต่ไม่ถูกทางธรรม" ก็อย่าไปทำ ถูกทางธรรมก็คือ ต้องมีความยุติธรรม บ้านเมืองถึงจะเจริญก้าวหน้า
นี่คือโอวาทธรรมของหลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม ที่นับว่าเข้ากับเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันเป็นอย่างดี ก็ลองพิจารณาตามท่านดูนะครับ
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอโอกาสหลวงปู่อธิบายเพิ่มเติมตามปัญญาที่มีอยู่ว่า โอวาทของหลวงปู่นี้ คงตอบปุจฉาของพระมอสที่ท่านถามพวกเรามาหลังจากที่ท่านได้ฟังธรรมหลวงปู่มาแล้ว ว่า "เกิดมาเพื่ออะไร?" จะว่าไปแล้ว วิสัชนานี้ คงเหมาะกับเรื่องทางโลก คือตอบผู้ที่ยังมีหน้าที่ทางโลกอยู่ แต่ปุจฉาจริงๆ ที่หลวงปู่ถามพระมอสก็คือ "บวชมาเพื่ออะไร?" วิสัชนาก็คงไม่ต่างจากทางโลกก็คือ 1) ทำหน้าที่เพื่อตัวเอง เมื่อบวชเข้ามาแล้วก็มีหน้าที่เพียรละกิเลสของตัวเองให้หมดไป 2) ทำหน้าที่เพื่อผู้อื่น คือ หน้าที่การงานอะไรที่สงฆ์ควรทำในวัดก็ให้ช่วยกันทำ ทำแบบมีสติก็นับเป็นการฝึกสมาธิได้เช่นกัน และเมื่อมีธรรมแล้ว ก็เอาธรรมและบุญกุศลนั้นให้แก่ผู้อื่น อนุเคราะห์สงเคราะห์กันไปตามกำลังที่มี อันนี้ก็คงพอตอบคำถามของพระมอสในเรื่องทางธรรมได้ครับ
หมายเหตุ ผู้เขียนสรุปเรียบเรียงและตกแต่งคำใหม่ คำอาจไม่ตรงกับที่หลวงปู่แสดงมาทั้งหมด แต่ข้อความหลักยังอยู่มากที่สุด จึงขอขมากรรมต่อหลวงปู่ครับ
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
20 พฤศจิกายน 2557
ดร.นนต์ ถวายพระบรมสารีริกธาตุแด่หลวงปู่เหลือง เมื่อ 1 กันยายน 2555
สาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ
ตอบลบ